จากเมืองฐานล้อ สู่เมืองฐานราง : มุมมองขอนแก่นในอีก 20 ปีข้างหน้า
ปี 2024 ขอนแก่นยังคงเป็นเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยล้อ เป็นเมืองที่ระบบคมนาคมหลักยังพึ่งพารถยนต์ ถนน และการเดินทางส่วนบุคคลเป็นหลัก เมืองขยายออกไปแบบกระจัดกระจาย ความหนาแน่นลดหลั่นตามแนวถนนสายหลัก ย่านพาณิชย์แบบดั้งเดิมบางส่วนเริ่มเสื่อมถอย เพราะไม่สามารถแข่งขันกับการขยายตัวของห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่รอบนอกเมืองได้ ขอนแก่นคือเมืองที่คนจำนวนมาก “จำเป็นต้องเดินทาง” เพื่อเข้าถึงโอกาส และโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบมารองรับรถยนต์มากกว่าคนเดินเท้า
แต่ในแผนการพัฒนาที่ถูกยกร่างขึ้นใหม่ในปี 2024-2025 ภายใต้แนวทางของแผนแม่บทเมืองอัจฉริยะ (Smart City Master Plan) และแผนขับเคลื่อนเมืองนวัตกรรม Khon Kaen MS2 เมืองนี้กำลังเคลื่อนผ่านจุดเปลี่ยนสำคัญ เป้าหมายไม่ใช่แค่การเป็นศูนย์กลางของภาคอีสานในเชิงเศรษฐกิจอีกต่อไป แต่คือการเป็น “เมืองต้นแบบของระบบราง” ที่เชื่อมโยงคน เมือง และเศรษฐกิจเข้าด้วยกันผ่านโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทั้งหมด
ภายในปี 2044 ขอนแก่นจะกลายเป็นเมืองฐานรางอย่างแท้จริง โดยมีระบบขนส่งรางเป็นโครงหลักของการเคลื่อนย้าย ตั้งแต่รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ไปจนถึงรถไฟฟ้ารางเบา LRT ที่พาดผ่านกลางเมือง บทบาทของสถานีรถไฟจะเปลี่ยนจากพื้นที่จอดขนส่ง เป็น “ศูนย์กลางการพัฒนาเมือง” ที่เชื่อมโยงฟังก์ชันของเมืองหลากหลายด้านเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม การท่องเที่ยว หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่
สิ่งที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนผ่านนี้คือแนวคิด TOD (Transit-Oriented Development) หรือ “การพัฒนาเมืองโดยยึดระบบขนส่งมวลชนเป็นศูนย์กลาง” ซึ่งในกรณีของขอนแก่น มีการระบุชัดเจนในแผน MS2 ว่า “พื้นที่รอบสถานีรถไฟกลางเมืองจะถูกกำหนดเป็นพื้นที่นำร่อง TOD ระดับภูมิภาค” โดยมีการออกแบบพื้นที่ให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินแบบผสมผสาน มีความหนาแน่นสูง รองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลากหลายประเภท และสามารถเข้าถึงได้ด้วยระบบขนส่งสาธารณะภายในรัศมี 400-800 เมตร รอบสถานี

ยิ่งไปกว่านั้น ขอนแก่นยังถูกวางตำแหน่งให้เป็น “เมืองเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง (Transit Hub)” ของภูมิภาค โดยจะเชื่อมโยงโครงข่ายรางกับศูนย์กลางเศรษฐกิจของเมืองอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อุดรธานี นครราชสีมา และอุบลราชธานี ผ่านระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกรุงเทพฯ-หนองคาย และการเชื่อมต่อกับโครงการ LMC (ลุ่มน้ำโขง) ที่วางตัวไว้ในระดับนานาชาติ
นี่ไม่ใช่แค่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่คือการออกแบบวิถีชีวิตใหม่ของคนทั้งเมือง การพัฒนา TOD จะส่งเสริมให้คนสามารถใช้ชีวิตได้ในพื้นที่เดียวกันกับที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ โดยไม่ต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนตัว ขอนแก่นในปี 2044 จะเป็นเมืองที่คนสามารถ “เลือกอยู่ เลือกใช้ชีวิต และเลือกลงทุน” ได้อย่างมั่นใจ
และที่สำคัญที่สุด การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ได้เกิดจากแผนของส่วนกลางเพียงฝ่ายเดียว หากแต่เป็นผลของการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งของท้องถิ่น ภาคธุรกิจ มหาวิทยาลัย ภาคประชาชน และองค์กรของเมืองเอง ภายใต้หลักการ “ออกแบบเมืองด้วยคนเมือง” ซึ่งถูกวางไว้เป็นหนึ่งในแกนกลางของแผน MS2